วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

Present Perfect Tense

Present Perfect Tense ถูกสร้างขึ้นโดยมีกริยาช่วย have, has อยู่ในประโยคหรือกริยาแท้ของประโยค present perfect tense จะเป็นกริยาช่องที่ 3 เสมอ ซึ่งโดยมากแล้วจะอยู่ในรูปกริยา เติม -ed (finished, decided, arrested, improved, arrived, เป็นต้น) ซึ่งเรียกว่า regular verbส่วนกริยาช่องที่ 3 ที่ เป็น irregular verb และถูกนำมาใช้ใน present perfect tense บ่อยๆ ก็มี lost, done, been, written เป็นต้น


            โครงสร้าง : S + has, have + V.3…


            Has: ใช้กับประธานเอ อ่านเพิ่มเติม

Present Continuous Tense

Present Continuous Tense เป็น tense ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นหรือกำลังกระทำอยู่ในขณะที่พูดนั้น present continuous tense สร้างมาจาก present tense โดยใช้ verb to be และ กริยาแท้ช่องที่ 1 เติม -ing


            โครงสร้าง : subject + is, am, are + V. ing...

        She is talking to a customer on the phone.
        หล่อนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับลูกค้า

        ( she เป็นประธานเอกพจน์จึงใช้กริยาช่วย ver อ่านเพิ่มเติม

Present Simple Tense

 Present Simple Tense (ปัจจุบันกาล) คือ tense ที่พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ไม่ได้ระบุว่าการกระทำนั้นๆ สมบูรณ์แล้วหรือยัง โดยมีโครงสร้างดังนี้


                โครงสร้าง :Subject + verb…
                (ประธาน) + (กริยาช่องที่ 1)


        Subject คือ ประธานของประโยค โดยประธานอาจจะแตกต่างกันไปเช่น เป็นคำนาม (noun) เป็นคำสรรพนาม (pronoun) หรือเป็นประธานชนิดอื่นๆ โดยประธานจะมี 2 ชนิดคือ อ่านเพิ่มเติม

Past Perfect Continuous Tense


Past Perfect Continuous Tense ใช้คล้ายๆ กับ Present Perfect Tense เช่นเดียวกับที่ Present Perfect Continuous Tense ใช้คล้ายกับPresent Perfect Tense โดย Past Perfect Continuous Tense จะเน้นถึงช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในอดีต

            โครงสร้าง: S + had + been +V.ing

        Had ใช้ได้กับประธาน ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์

        At that time he had been writing a novel for two months.
        ช่วงเวลานั้นเขาได้เขียนนวนิยายเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว

                การใช้ Past Perfect Continuous Tense


            1) ใช้ Past Perfect Continuous Tense กับเหตุการณ์ที่เกิ อ่านเพิ่มเติม

So และ Such

มีคนถามเข้ามาว่า So กับ Such 2 คำนี้ใช้ต่างกันอย่างไร? คำว่า so กับsuch ในภาษาอังกฤษถ้าแปลตรงๆ เลยก็จะมีความหมายว่า มากจน หรือ มากจนถึงขนาดว่า ทั้งสองคำแปลออกมาได้เหมือนกัน แต่เอ แล้วมันใช้ต่างกันยังไงนะ? วันนี้เลยขอถือโอกาสมาแนะนำวิธีใช้ 2 คำนี้อย่างถูกต้องค่ะ


So … that, Such … that
โดยปกติ เราจะใช้ so … that, such … that: ในกรณีต่อไปนี้

a) ใช้แสดงความจริง (โดยปกติมักมีผลสืบเนื่องตามมา)
M’s feet are big.
(เป็นความจริงที่เท้าของเอ็มใหญ่).
M’s feet are so big that she can’t find shoes her size.
(เน้นย้ำว่าเพราะเท้าของเอ็มใหญ่จึงทำให้หารองเท้าที่พอดีไซส์ไม่ได้)
b) ใช้แสดงความรู้สึกหรือความเห็นว่ามากเสียจน (มากจริงๆ)
There are such heavy boxes that I can hardly lift them up
(มันเป็นกล่องที่หนักเสียจนยกแทบไม่ขึ้น).

การใช้ SO จะตามด้วยคำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์

so + adjective/adverb + tha อ่านเพิ่มเติม

Infinitive with and without to

Infinitives คือ รูปกริยาภาษาอังกฤษ ที่แบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือ

Infinitive with to (กริยาช่องที่ 1 ที่ต้องมี to นำหน้า)
Infinitive without to (กริยาช่องที่ ที่ไม่จำเป็นต้องมี to นำหน้า)
ตำแหน่งของ Infinitive with to ในประโยคต่างๆ

1. ใช้ทำหน้าที่เป็นคำนามซึ่งเป็นประธานของประโยค โดยมีความหมายว่าการ” หรือ ความ
To be a millionaire is my goal. (การได้เป็นเศรษฐีเป็นเป้าหมายของฉัน)

2. ใช้ตามหลังคำนาม หรือ สรรพนาม โด อ่านเพิ่มเติม

Gerund


Gerund คือ คำกริยาเติม ing    ทำหน้าที่เป็นคำนาม โดยนิยมเรียกว่า     กริยานาม
               เมื่อนำมาประกอบในประโยคอาจวางไว้หน้า กลาง หรือ หลังประโยคตามความประสงค์ของผู้พูด เช่น
               Smoking has been unpopular.     การสูบบุหรี่กลายเป็นสิ่งล้าสมัยแล้ว
               Forgive my interfering you.         ขออภัยที่ฉันรบกวนคุณ
               My favourite activity is singing      กิจกรรมโปรดของฉันคือการร้องเพลง

1. กริยาต่อไปนี้ต อ่านเพิ่มเติม